DNA Digital News ประจำวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2562

techsauce - 16/08/2019

คำถามยอดฮิตประจำช่วงที่ผ่านมาในแวดวงเทคโนโลยี คงหนีไม่พ …

rainmaker - 15/08/2019

โมเดล Premium Content หรือการจ่ายเงินเพื่อให้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์รูปแบบพิเศษนอกเหนือจากที่เปิดให้อ่านหรือรับชมได้ฟรี เป็นหนึ่งในโมเดลการทำธุรกิจของหลาย ๆ

it24hrs by ปานระพี - 17/08/2019

ใส่สมการใน Google Docs เช่น เศษส่วน พาย และสัญลักษณ์ของสมการคณิตศาสตร์บน Google Docs ทำอย่างไร ลองทำดูกัน ซึ่งวิธีการพิมพ์สมการนั้นง่าย ไม่ยุ่งยาก

marketing oops! - 18/08/2019

ทำความเข้าใจ Agile ฉบับง่ายๆ พร้อม 5 เทคนิครูปแบบการทำงานแบบ Agile ที่จะช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น และยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

thumbsup - 17/08/2019

การมองการตลาดแบบเศรษฐศาสตร์ คือการมองภาพรวมเห็นถึงแนวโน้มของธุรกิจว่าจะมีทิศทางไปทางไหน จะมีตัวแปรอะไรบ้างที่กระทบกับธุรกิจบ้าง ทั้งดีและไม่ดี และที่สำคัญคือทิศทางของราคา ทักษะนี้คือสิ่งที่นักการตลาดต้องมีติดตัว ก่อนจะหลงไปกับความนิยมหรือกระแส จนอัพราคาขึ้นรัวๆ จนเกิดภาวะขายสินค้าไม่ได้เพราะคิดว่าสินค้าอยู่ในกระเเส งั้นเรามาดูกันค่ะว่าจริงหรือเปล่า เเละจะนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาปรับใช้ยังไง เข้าใจกลไกลราคาตามหลักเศรษฐศาสตร์ ตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว เมื่อสินค้าได้รับความนิยมมากขึ้น ราคาสินค้าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเกิดภาวะการขาดแคลน หรือ Excess Demand คือมีความต้องการซื้อมากกว่าขาย ทำให้ผู้ขายสามารถตั้งราคาสูงขึ้นได้ เพราะมีความต้องการในการซื้ออยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลไกลตลาดเริ่มปรับจนเลยสมดุล (ความต้องการซื้อ = ความต้องการขาย = ระดับราคาคงที่) ความต้องการซื้อและความความเต็มใจจ่ายของผู้บริโภคจะลดลง ระดับราคาจะปรับตัวลดลง เพื่อให้เกิดราคาที่สมดุล คือจุดที่ (ความต้องการซื้อ = ความต้องการขาย) ซึ่งเป็นราคาที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายพอดีกัน ไม่เกิดการ Over ไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง   ฟีเวอร์แค่ไหนราคาก็ร่วง เมื่อเข้าใจทฤษฏีราคาตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว จะเข้าใจว่าไม่ว่าสินค้าจะฟีเวอร์แค่ไหน ราคาสินค้าจะพุ่งไปสูงยังไง ก็ต้องตกลงมาอยู่ดี ซึ่งกรณีที่เห็นได้ชัดที่สุดและอยู่ในช่วงราคาขาลงตอนนี้คือ กระแสชานมไข่มุก ที่แต่ก่อนราคาเพียงแก้วละ 20 – 50 บาท จนโอเวอร์มาเป็นแก้วละ 130+ …